ในวันนี้เราจะมาพูดถึงวิธีการล้างรถเนื่องจากว่าหน้าฝนของเรานี้หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ซึ่งเราใช้รถไป 1-2 วันฝนก็ตกอีกแล้ว แถมประเทศไทยของเราก็มีแต่สภาพดินโคลน แถมยังเกาะรถเราแน่นอีกด้วย ซึ่งในวันนี้แหละเราจะขอแนะนำวิธีการล้างรถด้วยตนเอง
เพราะเราก็เชื่อว่ามีหลายท่านที่ยังล้างรถด้วยวิธีผิดๆอยู่ เรามาดูกันดีกว่าว่าวิธีที่ล้างรถแบบถูกวิธีนั้นมันจะต้องมีขั้นตอนและทำอย่างไรกันบ้าง โดยสำหรับเทคนิคในการล้างรถที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้นะจะแบ่งเป็น 2 เทคนิกด้วยกันนั่นก็คือ
1 ล้างรถแบบ 2 buckets ( การล้างรถแบบ 2 ถัง)
ซึ่งถังแรกที่เราจะใช้นั้นจะเป้นถังที่เอาไว้ใส่น้ำยาล้างรถ ส่วนอีกหนึ่งถังนั้นเราจะใช้ในการใส่น้ำเปล่า โดยเหตุผลที่เราจะต้องมีสองถังก็เพราะว่าถ้าหากว่าเรามีถังเดียวก็จะนำไปใส่แค่น้ำยา ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็จพนำฟองน้ำจุ่มน้ำยาแล้วนำไปถูรถล้างรถ จากนั้นก็นำฟองน้ำที่เปื้อนนั้นไปจุ่มในถังน้ำยาอีก
จากนั้นก็นำมาถูเหมือนเดิม ซึ่งสิ่งที่ติดมาด้วยคือสิ่งสกปรกที่ติดมากับฟองน้ำโดยอาจจะก่อให้เกิดลอยขีดข่วนที่รถของเราได้ และนี่คือเหตุผลว่าทำไมต้องสองถัง ขอย้ำนะว่าถ้าจะล้างรถต้องสองถังเท่านั้น
วิธีการล้างก็นำน้ำยาใส่ถังแรกผสมกับน้ำเปล่า และอีกถังใส่น้ำเปล่าอย่างเดียว นำฟองน้ำมาจุ่มน้ำยาล้างรถ โดยเราจะต้องฉีดน้ำให้รถเปียกและไล่ฝุ่นเสียก่อน จากนั้นใช้ฟองน้ำที่จุ่มน้ำยาไว้มาเช็ครถ และนำไปล้างในถังน้ำเปล่าก่อนที่จะนำไปจุ่มในน้ำยาอีกครั้งทำแบบนี้จนเสร็จ จากนั้นให้นำน้ำเปล่ามาฉีดล้างเพื่อเป็นการล้างคราบน้ำยาและคราบสกปรกทิ้ง
เมื่อล้างเสร็จแล้วควรที่จะเช็ดให้แห้งด้วยนะ เพราะไม่งั้นอาจจะเกิดเป็นคราบน้ำได้
2.ล้างแบบ 1 ถัง
วิธีนี้เหมาะมากสำหรับคนที่อยู่คอนโดหรืออยู่ในพื้นที่ที่ไม่สามารถใช้น้ำฉีดรถได้ โดยต้องประหยัดน้ำหรือไม่มีพื้นที่ให้ใช้น้ำอะไรแบบนี้ ซึ่งมีอยู่อย่างเดียวที่จะแตกต่างจากการล้างแบบขั้นตอนที่ 1 นั่นก็คือตัวน้ำยา เพราะตัวน้ำยาจะเป็นการออกแบบให้มันพิเศษนั่นก็คือน้ำยาแบบไม่ต้องล้างออก
เพราะวิธีนี้จะเป็นการล้างรถแบบใช้น้ำน้อย โดยตัวน้ำยานี้จะมีข้อแตกต่างกับน้ำยาล้างรถแบบทั่วไปก็คือตัวน้ำยาแบบนี้จะไปเกิดการแยกตัวระหว่างตัวน้ำยากับฝุ่น มากกว่าน้ำยปกติ ทำให้เมื่อเราใช้แบบนี้แล้วตัวฝุ่นและสิ่งสกปรกก็จะออกไปได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย u12 เครดิตฟรี